Tuesday, September 5, 2017

ล่องใต้สู่เมืองนรา เสวนาสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้


ภาคภูมิ น้อยวัฒน์...เรื่องและภาพ
ตีพิมพ์ครั้งแรกในรายงานพิเศษ อนุสาร อ.ส.ท. ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ 

  กรมประชาสัมพันธ์จัดทัศนศึกษานำคณะสื่อมวลชนจากหลากหลายสาขาเดินทางสู่จังหวัดนราธิวาสเพื่อร่วมการเสวนา "สร้างความเข้าใจ นโยบายการแก้ไขปัญหา และสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้" ที่จังหวัดนราธิวาส  ระหว่างวันที่ ๙-๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา


  ในวันแรกเป็นการรับฟังการเสวนาในหัวข้อ "สร้างความเข้าใจ นโยบายการแก้ไขปัญหา และสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่ห้องนราทัศน์ ๒ โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมือง ฯ  จังหวัดนราธิวาส  โดยนางอรวิน บุตรวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนการประชาสัมพันธ์ สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์ กล่าวต้อนรับคณะสื่อมวลชน  ก่อนที่จะเริ่มการเสวนาโดยวิทยากรได้แก่นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ ส่วนหน้า และนายอาหะมะ ลีเฮ็ง คณะทำงานเครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่ดินบูโด-สุไหงปาดี โดยมีนางสุนิสา รามแก้วทำหน้าที่พิธีกรในการเสวนา

 การเสวนาครั้งนี้ทำให้สื่อมวลชนผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ ได้รับทราบนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้  ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง ประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ รวมทั้งประสบการณ์จริงจากการลงสังเกตการณ์ในพื้นที่ นำไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง    




วันต่อมาเป็นการทัศนศึกษาเยี่ยมชมพื้นที่  เริ่มจากศูนย์การเรียนรู้ กองพันทหารราบที่ ๑๕๑ ค่ายกัลยาณิวัฒนา อำเภอเมือง ฯ  ที่ภายในอาณาเขตมีป่าพรุ ที่เต็มไปด้วยต้นกระจูดขนาดใหญ่จำนวนมากให้กลุ่มวิสาหกิจแม่บ้านกองพลทหารราบที่ ๑๕ ใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ  นานาชนิด เช่น พวงกุญแจ กระเป๋าถือชนิดต่าง ๆ ทั้งยังพัฒนาการออกแบบขึ้นไปให้หลากหลายยิ่งขึ้น


 แวะเข้าไปที่อำเภอตากใบ ดินแดนใต้สุดของแดนสยาม เยี่ยมชมวัดชลธาราสิงเหที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม ได้สมญานาม “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย” เนื่องจากในประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้เคยช่วยให้ ๔ อำเภอของนราธิวาสรอดจากการถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งในอาณานิคมของอังกฤษ  ก่อนจะเข้าฟังบรรยายสรุป “โครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” จากนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอ ที่อำเภอสุไหงโกลก


คณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมด่านพรมแดนสุไหงโกลกที่มีชาวมาเลเซียเดินทางผ่านแดนเข้ามาท่องเที่ยวและซื้อหาสินค้าเป็นจำนวนมากมายในแต่ละวัน  เนื่องจากมีสถานีรถไฟใต้สุดของประเทศไทยที่เชื่อมไปยังมาเลเซียได้ด้วย จึงเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าชายแดนระหว่างประเทศที่สำคัญ



 ทางอำเภอสุไหงโกลกยังมีการส่งเสริมหลากหลายอาชีพให้กับคนในท้องถิ่นด้วย ผลิตภัณฑ์ผ้าปาเต๊ะ ของชุมชนบาโงเป๊าะเล็ง มีการผลิตเป็นล่ำเป็นสัน ตั้งเป็นอุทยานผ้าปาเต๊ะ วิสาหกิจของชุมชน นอกจากนี้ยังมีศูนย์เรียนรู้ผู้สูงอายุ และศูนย์ฝึกอาชีพของเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ผลิตงานหัตถกรรมจากผ้าหลากหลายชนิดจำหน่าย รวมทั้งวาเลนไทนพันธุ์ไม้ ที่เพาะพันธุ์แคคตัสน้อยใหญ่นานาพันธุ์ส่งจำหน่ายไปทั่วประเทศ



วันสุดท้ายเป็นการเดินทางเข้าสู่ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ของอำเภอสุคิริน  ลัดเลาะตามทางคดเคี้ยวของขุนเขาและแมกไม้เขียวอันหนาทึบเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา พิสูจน์ความมหัศจรรย์ของ “เนินพิศวง” ที่มองดูเหมือนรถไหลขึ้นสู่ที่สูง ก่อนบุกบั่นข้ามธารน้ำตกเข้าไปชม “ต้นกะพงยักษ์” ขนาดมหึมาสูงเยี่ยมเทียมฟ้า  

ปิดท้ายรายการด้วย ชมการร่อนทองตามธรรมชาติ จากสายลำธารที่หลากไหลลงมาเหมืองทองคำในอดีตบนภูเขาโต๊ะโมะ ซึ่งจากการเดินทางทัศนศึกษาในครั้งนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาสอยู่ในความสงบสุข สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย


สนใจรายละเอียดเนื้อหาของการเสวนาสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://osotho.blogspot.com/2017/08/


No comments:

Post a Comment