Thursday, October 14, 2021

ชุมชนวัดบางใบไม้นำร่องท่องเที่ยวสร้างรายได้สู่ชุมชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศหลังโควิด-๑๙

 

ภาคภูมิ น้อยวัฒน์ เรื่องและภาพ

โครงการชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร (บ้าน วัด ราชการ) ที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีชุมชนคุณธรรมฯ ทั่วประเทศ จำนวนกว่า ๒๕,๐๐๐ ชุมชน ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ กระทรวงวัฒนธรรมได้เฟ้นหา ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรมฯ ต้นแบบ จากการนำเสนอชุมชนคุณธรรมฯ ที่ได้รับการคัดเลือกจากแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเข้าประกวด รวมทั้งหมด ๒๒๘ ชุมชน คัดสรรในรอบแรกให้เหลือ ๓๐ ชุมชน ก่อนที่คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะได้ประเมินในทุกมิติตามโจทย์ที่กำหนด จนเหลือเพียง ๑๐ สุดยอดชุมชนที่จะนำมาเป็นต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ


เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) คลี่คลาย กระทรวงวัฒนธรรมได้หันมาเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยใช้สุดยอดชุมชนต้นแบบ เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ทั้ง ๑๐ แห่ง เป็นตัวนำร่อง ตามนโยบายของนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มุ่งขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (Bio Circular Green-BCG Economy Model) ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งผลักดัน “Soft Power” ไทยโดยนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (creative culture) เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5 F ประกอบด้วยอาหาร (food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (fashion) มวยไทย (fighting) และเทศกาลงานประเพณีสู่ระดับโลก (festival) เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน



ชุมชนวัดบางใบไม้ ตำบลบางใบไม้ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็น ๑ ใน ๑๐ สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” โดดเด่นในด้านความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ เนื่องจากแม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีเพียงประมาณ ๓ กิโลเมตร แต่กลับยังดำรงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำแบบดั้งเดิมไว้ได้ รวมทั้งสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้วยอัตลักษณ์วิถีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ มีสินค้าทางวัฒนธรรมซึ่งพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (Cultural Product of Thailand-CPOT) ของกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยศูนย์การเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ที่พัก โฮมสเตย์ ที่ราคาย่อมเยา คนในชุมชนมีความพร้อมในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี มอบน้ำใจไมตรีต้อนรับนักท่องเที่ยว ต่างร่วมแรงร่วมใจกันจนสามารถขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีชุมชน ก่อให้เกิดรายได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ส่งผลให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน






ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๔-๒๕ กันยายนที่ผ่านมา นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมได้นำผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้นำชุมชนและชาวบ้านชุมชนคุณธรรมฯ บางใบไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเดินทางท่องเที่ยวหลังโควิด-๑๙ โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และชาวชุมชนวัดบางใบไม้ร่วมกันต้อนรับอย่างอบอุ่น

พร้อมกันนี้ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและคณะยังได้เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของชุมชน กราบสักการะหลวงพ่อข้าวสุก พระพุทธรูปสำคัญของวัดที่มีประวัติว่าปั้นจากข้าวสุก ต่อมาจึงหล่อโลหะครอบทับไว้ ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดบางใบไม้ รับประทานอาหารทะเลผสมผสานอาหารพื้นเมืองและน้ำมะพร้าว ชมตลาดน้ำที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนนำเอาสินค้าทางวัฒนธรรมในพื้นที่มาขาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จักสานใบจาก ที่มีแหล่งวัตถุดิบคือต้นจากอยู่อย่างมากมายในท้องถิ่น



ปิดท้ายด้วยการล่องเรือสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิมคลองร้อยสายในอดีต บนเส้นทางเป็นที่ตั้งของบ้านโบราณอายุกว่า ๒๐๐ ปีที่โดดเด่นในเชิงช่าง ประกอบด้วยสลักไม้ ไม่ใช้ตะปู สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ราวปี พ.ศ. ๒๓๑๒ โดยขุนประจันศึกประชิด ความโดดเด่นของบ้านหลังนี้คือฝีมือเชิงช่างด้วยการเข้าสลักไม้ ไม่มีการตอกตะปู เรียนรู้การทำผลิตภัณฑ์หลากหลายจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สวนลุงสงค์ ชมทิวทัศน์ของผืนป่าจากผืนใหญ่ที่เรียงรายสองฟากฝั่ง สอดสานใบโค้งเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นจากที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจยามล่องเรือลอดผ่านไป

ในวันรุ่งขึ้น ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมยังได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีสมโภชและพิธีห่มผ้าพระบรมธาตุ ในงาน “สืบสานปณิธานท่านพุทธทาสภิกขุ ครบรอบชาตกาล ๑๑๕ ปี วิถีใหม่” พิธีห่มผ้าพระสามพี่น้อง และพิธีตักบาตรปันน้ำใจสู้ภัยโควิด ณ วัดพระบรมธาตุไชยา วรมหาวิหาร โดยมีพระครูปริยัติคุณาวุธ รองเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีตักบาตร เยี่ยมชมอนุสาวรีย์พระยาวจีสัตยารักษ์ (ขำ ศรียาภัย) และเจดีย์บรรจุอัฐิตระกูลศรียาภัย บริเวณอนุสรณ์สถานเจ้าเมืองไชยา (อนุสรณ์ศรียาภัย) ในเมืองไชยาเก่า ตำบลพุมเรียง ชมการสาธิตมวยไชยาที่บริเวณสวนสาธารณะชายหาดพุมเรียง อันเป็นที่ตั้งของรูปปั้นอาจารย์เขตร ศรียาภัย ปรมาจารย์แห่งมวยไชยาในท่าจรดมวย และประติมากรรมแม่ไม้มวยไทยไชยาที่รายรอบอยู่อีก ๙ ท่า

หลังจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมมีโครงการขยายผลสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” อีก ๙ แห่ง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ได้แก่ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย จังหวัดเชียงราย ชุมชนคุณธรรมฯ วัดศรีดอนคำ จังหวัดแพร่ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่ามะโอ จังหวัดลำปาง ชุมชนคุณธรรมฯ เมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนบุรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเก่าริมน้ำประแส จังหวัดระยอง ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านสามช่องเหนือ จังหวัดพังงา และรวมทั้งขยายต่อไปยังชุมชนคุณธรรมฯ ที่มีความพร้อมอีก ๒๒๘ ชุมชนทั่วประเทศต่อไป


ในการนี้ยังได้จัดทำ Mobile Application “เที่ยวเท่ ๆ เสน่ห์เมืองไทย” ทั้งในระบบ iOS และ Android ขึ้นเพื่อสนับสนุนด้วย โดยรวบรวมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่โดดเด่น ร้านอาหาร สินค้าทางวัฒนธรรม ที่พัก ฯลฯ ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการท่องเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ สัมผัสลึกซึ้งถึงเสน่ห์ของวิถีชีวิตของชุมชน ตลอดทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกในการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศด้านการท่องเที่ยว และเป็นช่องทางสำคัญในการประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมจัดทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวแต่ละจังหวัด ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในอีกทางหนึ่ง