Thursday, May 18, 2017

"จากกระโจมไฟสู่การเดินเรือกรมเจ้าท่า" ๑๕๐ ปีศรีสุริยวงศ์


ภาคภูมิ น้อยวัฒน์ ...เรื่องและภาพ
ตีพิมพ์ครั้งแรกในอนุสาร อ.ส.ท. ฉบับเดือนมิถุนายน ๒๕๖๐

             เช้าตรู่ในวันฝนพรำ

            คณะทัศนศึกษา “จากกระโจมไฟสู่การเดินเรือกรมเจ้าท่า”  อันประกอบด้วยอาจารย์พลาดิศัย สิทธิธัญญกิจ อาจารย์สมปอง ดวงไสว และคณะสื่อมวลชนจากหลากหลายสาขา พากันขึ้นรถบัสขนาดใหญ่ออกจากมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มุ่งหน้าสู่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ๖ สมุทรปราการ ก่อนลงเรือตรวจการณ์ของกรมเจ้าท่า ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่บริเวณสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา

เพื่อตามหา “ประภาคารแห่งแรกของประเทศไทย”

          แนวคิดในการสร้างประภาคารดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังปรากฏบันทึกในประชุมพงศาวดารรัชกาลที่ ๔ ความว่า “ในปีขาน โปรดให้พระยาเทพประชุนไปทำไลซเฮ้า คือเรือนตะเกียงที่หลังสันดร สำหรับเรือลูกค้าเปนที่หมายทางเข้าออก

 สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) 

                    สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ท่านศึกษาเรื่องการเดินเรือตามบรรพบุรุษที่ดูแลการค้าระหว่างประเทศและการเดินเรือมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาสืบเนื่องกันมา ท่านเองยังได้รับราชการดูแลกรมท่าและมาตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ ๒   เมื่อเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕ จึงได้สร้างประภาคารตามพระราชดำริในรัชกาลที่ ๔ ขึ้น เนื่องจากเห็นว่าในสมัยนั้นปากแม่น้ำเจ้าพระยามีเรือสินค้าเข้าออกเป็นจำนวนมาก อันเป็นผลจากการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวในการก่อสร้าง แล้วยกให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน เรียกชื่อว่า Regent Lighthouse ดังมีรายละเอียดบันทึกไว้ว่า

“...ราคาเรือนตะเกียงที่พระสยามธุระพาห์กงสุลซื้อเข้ามานั้นเป็นราคา ๑๘๐ ชั่ง พร้อมทั้งเครื่องเรือนตะเกียงแลโคมด้วย เงินที่มาลงทุนทำการตั้งเรือนตะเกียงขึ้นนั้น อีกเงินค่าไม้และของใช้เบ็ดเสร็จ ๑๘ ชั่ง ๖ ตำลึง ๑๐ สลึง เงินค่าจ้างเรือจ้างคนบรรทุกศิลาไปถมราก ๑๐ ชั่ง เงินจ้างเรือโป๊ะเมื่อแก้เรือนโคมชุด ๑๕ ชั่ง เงินค่าจ้างช่างไม้ ๑ ชั่ง ๑๘ ตำลึง ๑๑ สลึง รวมเป็นเงิน ๒๒๕ ชั่ง ๕ ตำลึง ๕ สลึง เป็นเสร็จการ และเงินที่ลงทุนค่าเรือนตะเกียงทั้งหมดนี้ สมเด็จเจ้าพระยาฯ ท่านได้ออกเงินสร้างเป็นของ ๆ ท่าน สำหรับที่จะให้เรือราชการและเรือลูกค้าไปมาเป็นที่สังเกตในเวลากลางคืน และจะได้เป็นเกียรติยศแก่ปากน้ำเจ้าพระยาด้วย”


  ประภาคาร Regent Lighthouse สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๑๗

ในส่วนของลักษณะและที่ตั้งของตัวประภาคาร ปรากฏข้อมูลอยู่ที่ประกาศกรมท่า ในราชกิจจานุเบกษา ดังต่อไปนี้
"เรือนตะเกียงนั้นตั้งอยู่ข้างตะวันออกริมรั้วช้าง แลติจูต ๑๓ ดีกรี ๒๙ มินิศ ๒๖ เสกัน เหนือ นับข้างทิศตะวันออก ลอนยิศจุน ๑๐๐ ดีกรี ๓๕ มินิศ ๒๐ เสกัน ข้างไฟสันดอนอยู่ใกล้ทิศตะวันตกริมตลิ่งจะเลี้ยวมาทางตะวันออก เรือนตะเกียงนี้มีแสงสว่างรอบตัว สูงพ้นน้ำ ๔๔ ฟิต เรือไปมาจะเห็นแสงสว่างได้ทาง ๑๐ ไมล์ การที่ทำเรือนตะเกียงและการที่จัดเจ้าพนักงานพิทักษ์รักษาและจุดตะเกียงนั้น สมเด็จเจ้าพระยาฯ ได้มอบธุระให้ข้าพเจ้าเป็นผู้จัดการมาแต่แรกลงมือทำ เรือนตะเกียงนี้ได้ลงมือทำแต่เมื่อปีมะเมียโทศก จุลศักราช ๑๒๓๒ แล้วเสร็จในปีมะแม ตรีศก จุลศักราช ๑๒๓๓ การที่ช้าอยู่ ไม่ได้จุดตะเกียงนั้น เพราะเรือนตะเกียงซุด ต้องรื้อทำใหม่ถึง ๒ ครั้ง เพราะเป็นที่เลนอ่อน การที่ได้ทำครั้งหลัง ต้องทิ้งศิลาถมลงเป็นรากแล้ว จึงได้ตั้งเรือนตะเกียงได้ สังเกตดูมา ๑๐ เดือนแล้วก็เห็นว่าจะอยู่ได้ จึงได้ออกประกาศให้ทราบทั่วกัน ผู้ซึ่งจะเป็นพนักงานจุดตะเกียงนั้น มิสเตอร์ฝอดชาวเยอรมันได้รับธุระในการจุดตะเกียงและการที่จะรักษาเรือนตะเกียง...”


 นาวาโทกิตติพงษ์ พูลทองคำ เจ้าหน้าที่นำร่องชำนาญการ กรมเจ้าท่า ชี้ให้ดูตำแหน่งที่ตั้งประภาคาร

                 เมื่อเรือของคณะทัศนศึกษาไปถึงจุดหมายก็พบว่าปัจจุบันประภาคารดังกล่าวได้พังทลายไปจนไม่หลงเหลือร่องรอยใดให้เห็นแล้ว อย่างไรก็ตาม นาวาโทกิตติพงษ์ พูลทองคำ เจ้าหน้าที่นำร่องของกรมเจ้าท่าซึ่งมาเป็นวิทยากรให้กับคณะได้นำเรือไปยังทุ่นสีแดงหมายเลข ๑๔ แล้วชี้ให้ดูแนวจากทุ่นสีแดง ๑๔ ตั้งฉากกับแนวทุ่นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ๒.๕ กิโลเมตร ว่าเป็นที่ตั้งของประภาคารในตำแหน่งเดิม คือที่ละติจูต ๑๓ องศา ๒๙ ลิปดา ๒๖ ฟิลิปดาเหนือ นับข้างทิศตะวันออกที่ลองติจูด ๑๐๐ องศา ๓๕ ลิปดา ๒๐ ฟิลิปดา

               เหตุที่ประภาคารแห่งแรกของไทยถูกทอดทิ้งจนพังทลายไปก็เนื่องมาจากในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ได้หันมาใช้เรือทุ่นไฟแทนที่ประภาคาร แต่ต่อมาพบว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงเลิกการใช้เรือทุ่นไฟในปี พ.ศ. ๒๔๗๙  กลับมาสร้างประภาคารแห่งใหม่ขึ้นห่างจากที่เดิม

 คณะทัศนศึกษาขึ้นเยี่ยมชมสถานีนำร่องและมอบของที่ระลึกให้กับวิทยากร

จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๒  กรมเจ้าท่าจึงได้สร้างสถานีนำร่องขึ้นที่สันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารคอนกรีต มีความสูง ๓๘ เมตร ส่งสัญญาณไฟแวบสีขาว ทุก ๆ ๑๐ วินาที โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เป็น สามารถมองเห็นได้ไกลถึง ๒๐ ไมล์ บนสถานีมีห้องพักอาศัยสำหรับพนักงานนำร่องที่มาเตรียมพร้อมปฏิบัติงาน คณะทัศนศึกษาได้แวะเยี่ยมชมสถานีนำร่อง ซึ่งของประเทศไทยของเราถือว่าเป็นสถานีนำร่องแห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่กลางทะเลอีกด้วย

 เลนส์ตะเกียงของประภาคาร
 เรือนตะเกียงที่เก็บรักษาอยู่ภายในคลังของพิพิธภัณฑ์

 ล่องเรือกลับมายังฝั่ง เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทหารเรือจังหวัดสมุทรปราการ สถานที่เก็บรักษาเรือนตะเกียงเลนส์นูนทำจากกระจก ที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์สั่งเข้ามาจากกรุงลอนดอน  พร้อมเครื่องตะเกียงที่จุดด้วยน้ำมัน  ซึ่งเมื่อจบการเดินทางในครั้งนี้ ทุกคนที่ร่วมในคณะเดินทางต่างก็เห็นว่าสมควรอย่างยิ่งที่จะได้มีการรื้อฟื้นประภาคารแห่งแรกของไทยเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)  ซึ่งท่านมิได้พียงสร้างประภาคารหรือกระโจมไฟแห่งแรกขึ้นที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น ยังได้วางรากฐานให้กับกรมเจ้าท่าในอดีต การจัดการทางเดินเรือนำร่องเข้าสู่พระนคร รวมไปถึงข้อกำหนดที่เป็นประโยชน์ต่อกิจการเดินเรือ การต่อเรือ อีกมากมายอันส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน 

    กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ตามรอย ๑๕๐ ปีศรีสุริยวงศ์” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้ประกาศให้ปี พ.ศ. ๒๕๕๗- ๒๕๖๑เป็นปีแห่งการเชิดชูเกียรติ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เพื่อเตรียมยื่นเสนอองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ประกาศให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ในวาระครบรอบ ๑๕๐ ปีการปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน โดยจัดกิจกรรมเผยแพร่ผลงานของสมเด็จเจ้าพระยาฯตามวาระของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนมาอย่างต่อเนื่อง


ผู้สนใจรายละเอียดของการเดินทางทัศนศึกษา “จากกระโจมไฟสู่การเดินเรือกรมเจ้าท่า”ในครั้งนี้  สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ www.facebook.com/osotho และwww.facebook.com/thaitimetraveller  ส่วนกิจกรรมทัศนศึกษาที่น่าสนใจในโครงการ “ตามรอย ๑๕๐ ปีศรีสุริยวงศ์” ที่จะมีขึ้นอีก ทางอนุสาร อ.ส.ท. จะได้ติดตามความเคลื่อนไหวมานำเสนอต่อไป


6 comments:

  1. Ufabet168 site gambling online UEFA Bateman 's website are legally 100% a License are all things which today are popular with many of the key features respectability with a sustainable financial deposit - withdrawal was actually with me to the. a site gambling online of our brand, our traditional and much more. 10 years and it's the way we have turned services Gambling Online integrated with both the casino has also taken a solitary goal Teng ball , step ball dress pierced the high , low and etc. Whether it is a double major or a minor at all. league on earth this has varied greatly.
    ufa1688

    ReplyDelete
  2. Our website Ufabet provides betting services in the system of Auto Deposit-Withdrawal. Our members are not only in Thailand. Online football betting UEFA Bet market And this makes a guarantee that Ufabet168 is another reliable football betting website . If you still hesitate, make your decision as we have many promotions waiting for you and At the moment, we are Ufa1688 's parent web site, we open agent or agent services to these websites as well. ufa1688

    ReplyDelete

  3. LOT ONLINE online casino with SLOT24TH, the operator of the latest online slots games, lifelike, which has been improved from various stories from popular games, making it attractive to play by adding new technologies. The slot game is fun and beautiful to play. In order to make players more in the game


    sexy gaming
    slot

    ReplyDelete
  4. شركة نقل عفش بجازان افضل شركة نقل عفش بجازان نقوم بنقل الاثاث من والى جازان فى اى وقت سيارت مغلقة خدمة عملاء على اعلى مستوى من المهنية عمالة فلبينية ماهرة فى نقل الاثاث من والى جازان

    ReplyDelete