ภาคภูมิ น้อยวัฒน์...เรื่องและภาพ
ตีพิมพ์ครั้งแรกในอนุสาร อ.ส.ท. ฉบับเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒
พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลจำนวน
๑,๑๘๕ ไร่ งดงามด้วยทิวทัศน์เนินเขาน้อยใหญ่ที่เขียวชอุ่มด้วยแมกไม้บึงน้ำกว้าง ทั้งยังประดับประดาด้วยไม้ดอกไม้ประดับสะพรั่งบานละลานตา
หากไม่มีใครบอกคงไม่มีทางรู้ว่า เป็นอาณาบริเวณของเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ
เนื่องจากได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ
“ที่ศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้
ดำเนินงานตามโครงการกำลังใจในพระดำริของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา
พระองค์ท่านได้ทรงนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ มาใช้ เพื่อให้ผู้ต้องขังในเรือนจำที่นี่ได้เรียนรู้หลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
แล้วนำมาปรับใช้ในชีวิตของตัวเอง จนกว่าจะพ้นโทษไปจากเรือนจำ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่
๙ เมษายน ๒๕๕๓ พระองค์ท่านยังเสด็จมาเป็นองค์ประธานเปิดโครงการกำลังใจรุ่นที่ ๑
ภายในปีเดียวกันด้วย ...เดือนมีนาคม ปี ๒๕๖๐ ทรงมีดำริให้ตรงนี้เป็นศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเขาระกำจังหวัดตราด
ให้เป็นซิกเนเจอร์ของเขาระกำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว...”
นายเอนก ทองลอย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราดเปิดเผยถึงประวัติความเป็นมา
ภายในศูนย์เรียนรู้ ฯ ได้นำ
“ศาสตร์พระราชา” มาปรับใช้อย่างเหมาะสม เช่นการสร้างฝายชะลอน้ำ ๑๙ ชั้น ความยาว
๑,๓๐๐ เมตร เนื่องจากภายในศูนย์เรียนรู้ ฯ เป็นที่สูง เมื่อฝนตกน้ำไหลเร็วและแรง
การสร้างฝายชะลอน้ำช่วยให้สามารถกระจายน้ำลงไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ในเขาระกำ สำหรับใช้ในการเกษตร
โดยไม่ต้องใช้มอเตอร์ปั๊มน้ำจากอ่างเก็บน้ำขึ้นมา อันจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน รวมทั้งมีการสร้างแก้มลิงสำหรับกักเก็บน้ำโดยนำยางรถยนต์ที่ใช้แล้วจากในจังหวัดตราดมาใช้
เป็นการนำวัสดุเหลือใช้มารีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ
ในบริเวณพื้นที่อันกว้างขวางมีการจัดสรรที่ดินอย่างเป็นสัดส่วน
แบ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการเรือนจำ อาคารทรงงานภาคสนาม
อาคารนิทรรศการที่จัดแสดงพระราชกรณียกิจและพระกรณียกิจของพระบรมวงศานุวงศ์ในจังหวัดตราดและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นอกจากนั้นจัดเป็นพื้นที่สำหรับการฝึกอาชีพต่าง ๆ
แปลงปลูกป่า แปลงปลูกผักปลอดสารพิษ แปลงเลี้ยงปศุสัตว์ บ่อเลี้ยงปลา การเลี้ยงผึ้งชันโรง
รวมทั้งฝึกวิชาชีพอีกหลากหลายให้กับผู้ต้องขัง โดยวิทยากรจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมสนองพระดำริ
เช่น สอนทำขนมวากาชิ โดยวิทยากรโครงการกำลังใจในพระดำริฯ การส่งเสริมการปลูกหม่อนผลและหม่อนใบ
นำผลผลิตมาแปรรูปไปจำหน่าย และนำเงินปันผลมาให้กับผู้ต้องขังโดยวิทยากรจากกรมหม่อนไหม
การสอนทำบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุน งานปั้นปูน
ปั้นดิน งานแฮนด์เมด
บนเนินถัดลงมาจากอาคารทรงงานและสะพานกำลังใจจัดสร้างเป็นร้านคอฟฟี่ช็อป
Inspire
By Princess ตั้งอยู่บนจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ได้รอบเกือบจำหน่ายกาแฟ
จำหน่ายอาหารหลายชนิด เช่น สเต็ก ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง เครื่องดื่มต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษเข้ามาฝึกอาชีพ
เป็นผู้จัดการร้านค้า
เป็นพนักงานบริการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเป็นอาชีพเมื่อพ้นโทษออกไป
ในร้านยังเป็นศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากฝีมือผู้ต้องขังด้วย
“เกณฑ์การคัดเลือกผู้ต้องขังเข้ามาร่วมโครงการกำลังใจฯ
ต้องเป็นผู้ต้องขังชั้นดีขึ้นไป จำโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๔ ของกำหนดโทษ
เหลือโทษจำต่อไปไม่เกิน ๕ ปี เข้าข่ายพักการลงโทษ ที่เหลือโทษจำต่อไปไม่เกิน
๕ ปี จากเรือนจำภาคตะวันออก จันทบุรี
ระยอง จันท์ ตราด สระแก้ว ปราจีนฯ คัดจำแนกมาไว้ตรงนี้ อบรมเรื่องการใช้ชีวิตของตัวเอง
การดำเนินชีวิตแบบมีสติโดยใช้ศาสตร์พระราชามาสอน
๕ เดือนปล่อยเลย...
อยากขอฝากพี่น้องประชาชน
กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ เวลาพวกเขาออกไป ให้เขามีที่ยืนในสังคม
ช่วยกันประคับประคองให้เขาอยู่ได้ อย่าไปซ้ำเติมว่าเขาเป็นคนขี้คุกขี้ตาราง
เราต้องพยายามให้กำลังใจเขา การให้โอกาสคนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด...
แล้วก็ฝากผู้ประกอบการทั้งหลาย ลองให้โอกาสผู้ก้าวข้าม
ลองให้โอกาสเขากลับตัวกลับใจมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก
ช่วยกันประคับประคองให้กำลังใจเขา เหมือนกับที่พระองค์ภาฯ
ทรงให้กำลังใจพสกนิกรของท่าน” ผู้บัญชาการเรือนจำกล่าวทิ้งท้าย
ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ หมู่ ๕ ถนนสุขุมวิท
ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๕.๐๐ นาฬิกา โทรศัพท์ ๐๘ ๗๑๓๕ ๘๗๘๗
การเดินทาง จากตัวเมืองตราด ใช้ถนนถนนเทศบาล เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข
๓ (ถนนสุขุมวิท)
ประมาณ ๘ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางไปวัดสวนใน ตรงไปอีกประมาณ ๒
กิโลเมตร ศูนย์เรียนรู้ฯ ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ
No comments:
Post a Comment