ภาคภูมิ
น้อยวัฒน์...เรื่องและภาพ
ตีพิมพ์ครั้งแรกในรายงานพิเศษ อนุสาร อ.ส.ท. ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๖๐
กรมประชาสัมพันธ์จัดทัศนศึกษานำคณะสื่อมวลชนจากหลากหลายสาขาเดินทางสู่จังหวัดนราธิวาสเพื่อร่วมการเสวนา
"สร้างความเข้าใจ นโยบายการแก้ไขปัญหา และสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้"
ที่จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ ๙-๑๑
สิงหาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา
ในวันแรกเป็นการรับฟังการเสวนาในหัวข้อ
"สร้างความเข้าใจ นโยบายการแก้ไขปัญหา และสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่ห้องนราทัศน์
๒ โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมือง ฯ จังหวัดนราธิวาส
โดยนางอรวิน บุตรวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนการประชาสัมพันธ์
สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์ กล่าวต้อนรับคณะสื่อมวลชน ก่อนที่จะเริ่มการเสวนาโดยวิทยากรได้แก่นายไกรศร
วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง
หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ ส่วนหน้า และนายอาหะมะ
ลีเฮ็ง คณะทำงานเครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่ดินบูโด-สุไหงปาดี โดยมีนางสุนิสา
รามแก้วทำหน้าที่พิธีกรในการเสวนา
การเสวนาครั้งนี้ทำให้สื่อมวลชนผู้เข้าร่วมโครงการ
ฯ ได้รับทราบนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง ประเด็นต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ รวมทั้งประสบการณ์จริงจากการลงสังเกตการณ์ในพื้นที่ นำไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง
วันต่อมาเป็นการทัศนศึกษาเยี่ยมชมพื้นที่
เริ่มจากศูนย์การเรียนรู้ กองพันทหารราบที่
๑๕๑ ค่ายกัลยาณิวัฒนา อำเภอเมือง ฯ ที่ภายในอาณาเขตมีป่าพรุ ที่เต็มไปด้วยต้นกระจูดขนาดใหญ่จำนวนมากให้กลุ่มวิสาหกิจแม่บ้านกองพลทหารราบที่
๑๕ ใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ นานาชนิด เช่น พวงกุญแจ กระเป๋าถือชนิดต่าง ๆ ทั้งยังพัฒนาการออกแบบขึ้นไปให้หลากหลายยิ่งขึ้น
แวะเข้าไปที่อำเภอตากใบ ดินแดนใต้สุดของแดนสยาม
เยี่ยมชมวัดชลธาราสิงเหที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม ได้สมญานาม “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย”
เนื่องจากในประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้เคยช่วยให้ ๔ อำเภอของนราธิวาสรอดจากการถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งในอาณานิคมของอังกฤษ
ก่อนจะเข้าฟังบรรยายสรุป “โครงการเมืองต้นแบบ
สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” จากนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอ ที่อำเภอสุไหงโกลก
คณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมด่านพรมแดนสุไหงโกลกที่มีชาวมาเลเซียเดินทางผ่านแดนเข้ามาท่องเที่ยวและซื้อหาสินค้าเป็นจำนวนมากมายในแต่ละวัน
เนื่องจากมีสถานีรถไฟใต้สุดของประเทศไทยที่เชื่อมไปยังมาเลเซียได้ด้วย
จึงเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าชายแดนระหว่างประเทศที่สำคัญ
ทางอำเภอสุไหงโกลกยังมีการส่งเสริมหลากหลายอาชีพให้กับคนในท้องถิ่นด้วย
ผลิตภัณฑ์ผ้าปาเต๊ะ ของชุมชนบาโงเป๊าะเล็ง มีการผลิตเป็นล่ำเป็นสัน ตั้งเป็นอุทยานผ้าปาเต๊ะ
วิสาหกิจของชุมชน นอกจากนี้ยังมีศูนย์เรียนรู้ผู้สูงอายุ และศูนย์ฝึกอาชีพของเทศบาลเมืองสุไหงโกลก
ผลิตงานหัตถกรรมจากผ้าหลากหลายชนิดจำหน่าย รวมทั้งวาเลนไทนพันธุ์ไม้
ที่เพาะพันธุ์แคคตัสน้อยใหญ่นานาพันธุ์ส่งจำหน่ายไปทั่วประเทศ
วันสุดท้ายเป็นการเดินทางเข้าสู่ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ของอำเภอสุคิริน
ลัดเลาะตามทางคดเคี้ยวของขุนเขาและแมกไม้เขียวอันหนาทึบเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
พิสูจน์ความมหัศจรรย์ของ “เนินพิศวง” ที่มองดูเหมือนรถไหลขึ้นสู่ที่สูง
ก่อนบุกบั่นข้ามธารน้ำตกเข้าไปชม “ต้นกะพงยักษ์” ขนาดมหึมาสูงเยี่ยมเทียมฟ้า
ปิดท้ายรายการด้วย ชมการร่อนทองตามธรรมชาติ
จากสายลำธารที่หลากไหลลงมาเหมืองทองคำในอดีตบนภูเขาโต๊ะโมะ ซึ่งจากการเดินทางทัศนศึกษาในครั้งนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาสอยู่ในความสงบสุข
สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
สนใจรายละเอียดเนื้อหาของการเสวนาสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://osotho.blogspot.com/2017/08/
No comments:
Post a Comment